“Baby-led Breastfeeding”:
Neurobehavioral model for understanding how infant learn to feed
26 พค 54 9.30-10.30 น. โดย Dr. Chritina Smillie MD, FAAP,IBCLC,FABM
เก็บความโดย พญ. ศิริพัฒนา ศิริธนารัตนกุล
Take home messages:
1.หลังคลอดใหม่ในชั่วโมงแรกๆ ทารกแรกเกิดมีความสามารถที่จะคลานไปบนอกแม่ เพื่อหาเต้านมและเริ่มต้นดูดนมแม่ ความสามารถนี้ไม่ได้มีเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงแรกเท่านั้น แต่จะคงอยู่ได้นานหลายเดือน จนถึงเป็นปี
2. การที่ทารกคลานหาเต้านมแม่นั้นเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด( innate) หากไม่มีการรบกวนความสัมพันธ์แม่-ลูกในช่วงนี้ จะทำให้ลูกดูดนมแม่ได้ดี
3.สมองซีกซ้าย เกี่ยวข้องกับความเป็นเหตุเป็นผล ส่วนสมองซีกขวาเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก
แม่ที่ใช้สมองซีกซ้ายเป็นส่วนใหญ่ อาจมีการรบกวนกับการใช้สมองซีกขวาเมื่อจะเริ่มต้นให้นมแม่
การให้นมแม่เป็นขบวนการที่เกี่ยวข้องกับทั้งระบบประสาท และ ชีววิทยา ( Neurobiology)
ของทั้งแม่และลูก แต่เดิมการสอน breastfeeding แก่แม่มักจะเป็นการจับมือแม่สอน อุ้มลูกมาแล้วให้ดูดนมแม่เลยตามความต้องการของแม่ ( และผู้สอน) โดยไม่ได้สนใจว่าขณะนั้นลูกพร้อมที่จะดูดนมแม่หรือยัง ทำแบบ “RAM” คือ Ready- (แม่) พร้อม Aim- (อุ้มลูก)พุ่งใส่เป้าคือเต้านม Ram – เอาเข้าเต้าทันที ผลคือลูกร้องไม่ยอมดูดนมแม่
การบังคับทำให้เกิด sucking dysfunction = ไม่ดูดนมแม่ แม่จะรู้สึกว่าตนเองล้มเหลว และถ้าทำแบบเดิมต่อไปอีก ลูกก็ยังไม่เอาเต้า จนในที่สุดแม่ยอมแพ้ เลิกให้นมแม่ไป น่าจะมีวิธีอื่นที่จะให้นมแม่โดยการนำ ยินยอมพร้อมใจของลูก และลูกงับเต้าเอง (self-attachment or baby-led breastfeeding)
ทารกในช่วง 24 ชั่วโมงแรกเป็นช่วงที่เปราะบางมาก ถ้ามีการรบกวนขบวนการที่ทารกจะเริ่มดูดนมแม่แล้ว อาจทำให้เกิดปัญหาได้ การที่แม่ลูกได้พบกันในช่วงแรก ไม่ได้ต้องการให้ทารกได้อาหารแต่อย่างใด แต่การที่ผิวแม่ลูกได้สัมผัสกัน(skin to skin)เป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในช่วงนี้
จากวิดีโอจะเห็นว่าทารกที่วางอยู่บนทรวงอกแม่ สามาถขยับขาคืบคลานขึ้นไปหาเต้านมแม่ได้ทีละน้อย ค่อยๆไปโดยแม่เพียงแต่เฝ้าดู ทำตามสัญชาติญาณ ไม่ไปรบกวนลูก จนเมื่อถึงเต้านมลูกอ้าปากงับและดูดนมได้ ตัวอย่างที่ Dr. Christina ยกมาให้ดู มีทั้งทารกที่คลอดโดยการผ่าคลอด เอามาวางบนอกแม่หลังคลอด 10 ชั่วโมง , ทารกที่เป็นฝาแฝดคลอดก่อนกำหนด ที่ 32 สัปดาห์ อายุ 48 ชั่วโมง น้ำหนักแรกเกิด 1580 กรัม
นอกจากนี้ยังมี co-bathing –ให้แม่ลูกอยู่ในอ่างน้ำด้วยกัน ให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย คล้ายๆกับเป็นการ re-birthing , Laid back Breastfeeding- ให้แม่นั่งเอนๆตัวตามสบาย ค่อยๆให้ลูกสงบอยู่บนอก และเรียนรู้ที่จะเริ่มดูดจากเต้าเอง ไม่ต้องสอนมาก
ทำไมทารกจึงทำเช่นนี้ได้?
อธิบายได้ว่า แม่ลูกเป็น “ single biological system” คือ แม่ลูกอยู่ในระบบเดียวกัน แยกกันไม่ออก เป็นมนุษย์ 2 คนที่แทบจะเป็นคนๆเดียวกัน มีการสื่อสารระหว่างกันด้วยสายตา ผิวหนังที่สัมผัสกัน พฤติกรรมและอารมณ์ของแม่ส่งผลถึงพฤติกรรม และอารมณ์ของลูก มีการโต้ตอบกัน ( interaction)โดยทาง Bio-behavior คือมีทั้งระบบประสาท และฮอร์โมนทำงานประสานกัน แม่ลูกมีการสื่อสาร- อ่านใจซึ่งกันและกัน ( ขอใช้คำภาษาไทยว่าเป็น “ แม่ลูกคู่ขวัญ” เพราะต่างก็เป็นขวัญกำลังใจซึ่งกันและกัน)
Reflex of newborn baby : ทารกแรกเกิดมี reflex หลายอย่างที่ช่วยการเริ่มดูดนมแม่
Stepping reflex: ทารกยกเท้าทำท่าก้าวเดินได้ เพื่อพร้อมที่จะคลานไปบนอกแม่
Neck stabilizing reflex : การศึกษาพฤติกรรมของทารกอายุ 17 วันรายหนึ่งโดย กุมารแพทย์ด้านระบบประสาท พบว่า การที่แม่ลูกมีการสบตากัน มองหน้ากัน (มี socialization ) ทำให้ทารกสามารถใช้กล้ามเนื้อคอยกหัวขึ้นได้โดยแม่ไม่ต้องจับ สิ่งนี้เป็นธรรมชาติที่แม่ลูกจะพูดคุยกันอยู่แล้ว โดยเริ่มต้นแม่เอามือประคองคอลูกขึ้นมาให้ ตาลูกอยู่ระดับเดียวกับตาแม่ สบตากัน ทำเสียงคุยกันอยู่นาน 5-6 นาที เมื่อลูกกำลังเพลินอยู่กับกิจกรรมนี้ คอของลูกจะตั้งตรงได้เองโดยไม่ต้องใช้มือแม่มาประคองอีกต่อไป เรียกว่า ทารกอยู่ในช่วงสงบที่ลึกกว่า Quiet alert state คือเป็น communication state มีการสื่อสารกันได้
Dr. Marshall Klaus เป็นกุมารแพทย์คนแรกๆที่วิจัยและเขียนถึงความผูกพันระหว่างแม่ลูก
( Bonding) ทารกอยู่แต่เพียงลำพังคนเดียวไม่ได้ ต้องมีใครบางคนที่จะอยู่ด้วยกัน คอยประคับประคองให้ทารกรู้สึกสงบมั่นคง ทั้งทางร่างกาย และอารมณ์ ( Calm and secure emotionally and physically)
Feeding cues
1.Internal feeding cues : น้ำตาลในเลือดลดต่ำ , serum osmolality เพิ่มขึ้น
2. External feeding cues: แม่อุ้ม กลิ่น และสัมผัสจากแม่
แม่มีfeeding behavior จาก oxytocin reflex
Mammalian feeding sequences : ขบวนการให้อาหารของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะคล้ายๆกัน คือ ต้องมีการกระตุ้นทางสัมผัส( Tactile stimulus) ดังนั้น การห่อตัวลูกจนขยับแขนขาไม่ได้เป็นการลิดรอนอิสรภาพ และรบกวนการให้นมแม่
Tactile stimulus cascades of behavior
ท้อง หน้าอก หา ก้าว คลาน
แก้ม Rooting
คาง เปิดปาก เข้าหา และ งับ
Oral mucosa , palate suckle
Baby-led breastfeeding : มองภาพรวมทั้งแม่และลูกสบายตัว ไม่เคร่งเครียด
- Calm baby ลูกสงบ ผ่อนคลายสบายๆ
- ลูกเริ่มหาเต้าเอง และเป็นผู้เริ่ม breastfeeding
- แม่เป็นผู้ตามการเริ่มของลูก
- Chin to breast คางสัมผัสเต้าแม่ อย่าไปขัดขวางหรือบังคับลูก
- ลูกพบ และงับเต้าเอง
ถ้าแม่รู้สึกเจ็บหัวนม หรือ discomfort ไม่ได้แปลว่างับผิด แต่เป็นสัญญาณนำให้เรารู้ว่าควรมีการปรับเปลี่ยนท่า โดยการเอนตัวบ้าง หรือให้แม่ขยับเขย่าจนกว่าจะได้ท่าที่สบาย ถ้าแม่ผ่อนคลาย ลูกก็จะผ่อนคลายด้วย
เมื่อลูกดูดนมแม่ได้สำเร็จแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งต่อๆไปก็จะง่ายขึ้น
-